แม่-ลูกสุขสันต์ อัศจรรย์วันพักผ่อน | สิงหาพาแม่เที่ยว

“แม่” นักบุญ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ที่เที่ยวที่จะแนะนำอันดับ 1 ของเรา คือ พาคุณแม่ไปทำบุญกันค่ะ ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับค่ะว่า มีวัดสวยๆเกิดขึ้นมากมาย งานนี้นอกจากได้อิ่มใจจากการทำบุญ อุ่นใจจากการพาแม่เที่ยวแล้ว ยังได้แชะภาพสวยๆเป็นที่ระลึกอีกด้วยค่ะ

วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)

วัดแรกที่ PaiNaiDii Diary แนะนำนี้ เชื่อว่าทุกท่านต้องรู้จักเป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของสยามประเทศเรา ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ภายในเป็นที่ประดิษฐานของ “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” หรือ “พระแก้วมรกต” พระคู่บ้านคู่เมืองของเรานั่นเอง เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้าสักการะองค์พระแก้วมรกตและเยี่ยมชมความงามกันได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 - 15.30 น. (ยกเว้นวันที่มีพระราชพิธี เวลาเปิด-ปิดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง) คนไทยเข้าชมฟรีค่ะ แต่ชาวต่างชาติ คิดค่าเข้าชมคนละ 400 บาท ซึ่งบัตรค่าเข้าชมนี้ สามารถนำไปใช้เที่ยวต่อที่ พระที่นั่งวิมานเมฆ หรือ พระที่นั่งอนันตสมาคม หรือ พระราชวังสนามจันทร์ที่นครปฐม ได้ค่ะ โดยมีอายุบัตรหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก ไม่เกิน 7 วันค่ะ

Hilight : สักการะ “องค์พระแก้วมรกต” พระคู่บ้านคู่เมือง , ชมภาพเขียนฝาผนังบอกเล่าเรื่องราววรรณคดี “รามเกียรติ์” จัดเป็นภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่ยาวที่สุดในโลก , ชมความงดงามภายนอกของ “ปราสาทพระเทพบิดร” ปราสาทยอดปรางจัตุรมุข ซึ่งสร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในประดิษฐาน พระบรมรูปรัชกาลที่ 1-8 (สำหรับความงามภายในนั้น ต้องรอวันที่ 6 เม.ย. ของทุกปี ค่ะ จึงจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระบรมรูปได้)

Tips : ที่นี่เป็นอารามหลวง และเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาก จึงมีกฎกติกาหลายอย่างที่ควรทราบ เช่น การแต่งกาย

ผู้ชาย ห้ามใส่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ  และ  ผู้หญิง ห้ามใส่เสื้อกล้าม ใส่เสื้อไม่มีแขนกางเกงสามส่วน รองเท้าแตะ หากอยากเดินเที่ยวแบบสบาย ไม่เสียเวลาเช่าเสื้อผ้าเปลี่ยน แนะนำว่า แต่งกายให้เหมาะสมดีที่สุดค่ะ

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

วัดที่ 2 ที่จะแนะนำ เป็นวัดอารามหลวงอีก 1 วัด ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกับวัดพระแก้วค่ะ จะเดินทางไปทั้ง 2 วัดเลยก็สามารถทำได้ โดยวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม หรือ วัดโพธิ์นี้ ตั้งอยู่ริมถนนสนามไชยและถนนมหาราช ติดกับพระบรมมหาราชวัง จัดเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 08.00 - 17.00 น. คนไทยเข้าชมฟรีเช่นเดียวกับวัดพระแก้วค่ะ แต่ชาวต่างชาติ คิดค่าเข้าชมคนละ 100 บาท การแต่งกายยังคงต้องสุภาพเช่นเดียวกับวัดพระแก้ว แต่อาจจะหย่อนลงมาเล็กน้อย เช่น สามารถสวมกางเกงแค่เข่า หรือ ยาวกว่านั้นได้

Hilight : ร่วมสักการะองค์พระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของไทย ลักษณะพิเศษคือ พระบาทซ้ายและขวาซ้อนเสมอกัน ที่พระบาททั้ง 2 ข้างประดับมุกภาพ “มงคล 108 ประการ” ตรงกลางเป็นรูปจักรตามตำรามหาปุริสลักขณะ ซึ่งมีความสวยงามมาก , ชมความงานของเหล่าเจดีย์ราย ที่มีมากมายถึง 99 องค์ (เป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศ) , ตื่นตากับความรู้มากมายที่จารึกอยู่ภายในวัด ทั้งแผ่นศิลา – ศิลาจารึก – ผนังกำแพง – รูปปั้นฤาษี จนได้รับการขนามนามว่า เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย

Tips : ยักษ์วัดโพธิ์ที่ใครๆต่างกล่าวถึงรู้หรือไม่ว่า ไม่ได้ใหญ่เหมือนกับยักษ์วัดแจ้ง หรือ ยักษ์วัดพระแก้วแต่อย่างใด แต่กลับมีขนาดเล็ก และประดิษฐานคู่กัน ที่หน้าประตูทางเข้าอุโบสถ หากไปวัดโพธิ์แล้วอยากเห็นยักษ์ตนใหญ่ๆ ต้องดูยักษ์จีน ที่เรียกว่า “ลั่นถัน” แทนค่ะ

วัดอรุณราชวราราม (วัดแจ้ง)

ข้ามฝั่งจากวัดใน กทม. ฝั่งพระนคร มายังอีกหนึ่งวัดอารามหลวงฝั่งธนบุรีกันบ้าง ที่วัดอรุณราชวราราม หรือที่รู้จักกันดีในชื่อว่า “วัดแจ้ง” กันบ้างค่ะ โดยวัดแจ้งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฟากตะวันออกของถนนอรุณอมรินทร์ ระหว่างคลองนครบาลหรือคลองวัดแจ้งกับพระราชวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพ ค่ะ เปิดให้เข้าชมและทำบุญกันได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 7.30 – 17.30 น.

Hilight : จุดเด่นที่มาแล้วไม่ควรพลาดคือ การชื่นชมความงามขององค์พระปรางค์ ซึ่งมีความสูงถึง 67 เมตร รอบองค์พระปรางค์ ประกอบด้วยกระเบื้องเคลือบด้วยสีต่างๆ หลากลวดลายนับล้านชิ้น สอดสลับไว้อย่างเป็นระเบียบ ตั้งตระหง่านหันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา หากมองมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา มุมนี้จะมีความงดงามมาก หรือหากมองลงมาจากด้านบนจะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีความสวยงามมากเช่นเดียวกัน , พระประธานในพระอุโบสถ พระนามว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" หล่อในสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 3 ศอกคืบ ประดิษฐานเหนือแท่นไพที่บนฐานชุกชีที่พระพุทธอาสน์พระประธาน เชื่อกันว่าพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงปั้นหุ่นพระพักตร์ด้วยพระองค์เอง

Tips : “ยักษ์วัดอรุณ” หรือ “ยักษ์วัดแจ้ง” ผู้สร้างตำนานท่าเตียนอันลือเลื่อง มีด้วยกัน 2 ตน คือ ทศกัณฑ์ (กายสีเขียว) และ สหัสเดชะ (กายสีขาว) ยักษ์ทั้ง 2 มีความสวยงามไม่แพ้กัน โดยเป็นยักษ์ปูนปั้นประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสี เป็นเครื่องแต่งกายและลวดลายต่างๆ ยืนเด่นตระหง่านบริเวณหน้าซุ้มประตูยอดมงกุฎ (ยักษ์ที่วัดพระแก้วก็มีชื่อเดียวกับทั้ง 2 ตนนี้ เชื่อกันว่าที่วัดแจ้งมีก่อนแล้วจึงจำลองให้คล้ายกันที่วัดพระแก้ว)

เที่ยววัดในกทม.มาหลายวัดเดี๋ยวเหล่าบรรดาลูกรักแม่ชาวต่างจังหวัดจะน้อยใจว่า แล้ววัดในต่างจังหวัดที่จะพา “แม่” นักบุญไปแสวงธรรมไม่มีบ้างหรือไร PaiNaiDii Diary เอาใจทุกภูมิภาคค่ะ กับวัดสวยๆ แต่ล่ะภาคดังนี้

วัดร่องขุ่น เชียงราย

วัดแรกของภูมิภาค เริ่มกันที่ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงราย จังหวัดเหนือสุดของสยามประเทศของเรา ซึ่งเชื่อว่า ณ วันนี้ ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะชื่อเสียงที่ลือเลื่องถึงความงดงามของสถาปัตย์ที่สอดผสานศิลปะแบบล้านนาร่วมกับจินตนาการแดนสวรรค์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้การดูแลออกแบบและก่อสร้าง โดย “อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” ศิลปินแห่งชาติ ตั้งอยู่ ณ ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันระหว่างเวลา 6.30 – 18.00 น.

Hilight : ความงดงามของตัวอุโบสถสีขาว ประดับตกแต่งด้วยกระจกมีความวิจิตรงดงามแปลกตา พร้อมปูนปั้นลายไทย เหนืออุโบสถประดับไปด้วยปูนปั้นสัตว์ในเทพนิยาย รูปกึ่งช้างกึ่งวิหคเชิดงวงชูงา , ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอุโบสถวัดโดยฝีมืออาจารย์เฉลิมชัย ซึ่งมีความสวยงามมาก , ห้องแสดงภาพ เปิดให้เข้าชมผลงานของอาจารย์ จ-ส ระหว่างเวลา 8.00 – 17.30 น. และ ส-อา เวลา 8.00 – 18.00 น.

การเดินทาง : จาก กทม. หรือ เชียงใหม่ มุ่งหน้าเชียงราย ตรงหลัก กม. 816 ถนนพหลโยธิน (ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย 13 กม.) เลี้ยวเข้าไปประมาณ 13 กม. จะเจอกับตัววัด (มีป้ายบอกทางเป็นระยะ) หรือ จะนั่งรถสองแถวสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นรถประจำทางจากสถานีขนส่งเชียงรายสายเก่า ลงปากทางเข้าวัดเดินต่ออีกเล็กน้อยก็ถึงวัด

วัดโนนกุ่ม  (อุทยานมหาวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ / วัดสรพงษ์)ที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จากภาคเหนือมุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือกันบ้าง วัดที่จะแนะนำชื่อว่า "วัดโนนกุ่ม" หรือ วัดหลวงพ่อโต หรือ อุทยานมหาวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ แล้วแต่ใครจะเรียก ซึ่งชื่อเหล่านี้อาจจะไม่คุ้นเคยกับหลายคน แต่ถ้าบอกว่า “วัดสรพงษ์” คงทำให้หลายคนบางอ้อขึ้นมาได้ โดยวัดดังกล่าวตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ในอำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่ ประดิษฐานของรูปหล่อทองเหลืองรมดำขององค์หลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สาเหตุที่เรียกกันว่าวัดสรพงษ์ เพราะผู้ที่เป็นกำลังสำคัญในการก่อตั้ง วัดเนินกุ่ม ก็คือ คุณสรพงษ์ ชาตรี ดาราภาพยนตร์ชื่อดังของไทยเรานั่นเอง

Hilight : สักการะ องค์สมเด็จพระพุทธาจารย์โต ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก , อิ่มอร่อยกับ “ราดหน้าชาววัง” ในโรงทานที่พร้อมเลี้ยงแก่ผู้ทำบุญทุกท่าน  

การเดินทาง : ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพที่เข้าตัวเมืองนครราชสีมา เลยทางแยกไปชัยภูมิประมาณ 5 กิโลเมตร แล้วชิดซ้าย วัดอยู่ติดถนนมิตรภาพ ก่อนถึงวัดจะมีป้ายบอกอย่างชัดเจน

วัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่ ภาคตะวันออก

ไปต่อที่ภาคตะวันออก ที่ จังหวัดฉะเชิงเทรากันบ้างค่ะ โดยวัดที่จะแนะนำลำดับถัดไปก็คือ วัดหลวงพ่อโสธร หรือ วัดโสธรวรารามวรวิหาร นั่นเอง ตามความเชื่อเชื่อว่าหากใครไม่มีลูกหรือมีลูกยากให้มาขอลูกกับองค์หลวงพ่อโสธร แต่งานนี้ PaiNaiDii Diary ขอสวนกระแส ให้ลูกพาแม่มาไหว้พระเพื่อแสดงกตัญญุตาแทนกันบ้างค่ะ โดยวัดนี้ตั้งอยุ่ที่ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดให้เข้าชมและสักการะองค์หลวงพ่อได้ทุกวัน วันธรรมดา 07.00 – 16.15 น. และ วันหยุด 08.00 – 16.30 น.

Hilight : ชมความงามของพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งใช้ประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง ภาพเขียนสี ประดับโมเสกตั้งแต่พื้นพระอุโบสถไปจนถึง เสา ผนัง และ เพดาน  บอกเล่าเรื่องราวมหาสมุทรสีทันดร สวรรค์ดาวดึง โลก และ จักรวาล ซึ่งมีความสวยงามมาก

การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ หากขับรถไป มี 3 เส้นทางที่สามารถเดินทางได้ คือ ทางหลวงหมายเลข 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง 75 กิโลเมตร , ทางหลวงหมายเลข34 (บางนา-ตราด) จากนั้นเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข314 (บางปะกง–ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง90กม. และสุดท้าย ทางหลวงหมายเลข 3 (ผ่านสมุทรปราการ-บางปะกง) จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 314 ระยะทาง100  กิโลเมตรใช้เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ กรณีไม่อยากขับรถไปเอง จะเดินทางโดยรถบริการสาธารณะก็มีรถตู้และรถโดยสารปรับอากาศออกจากสถานีขนส่งหมอชิต และ เอกมัย ใช้เวลาเดินทางคร่าวๆประมาณ ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ ภาคใต้

เหนือ อีสาน กลาง และ ตะวันออกไปแล้ว จบที่ภาคใต้กันค่ะ โดยขอเสนอ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ ณ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นับเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองประจำจังหวัด เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรตที่ 13-15 ภายในวัดได้มีการบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าไว้ที บริเวณยอดเจดีย์  ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนวัดพระมหาธาตุฯ เป็นโบราณสถาน จัดเป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้  เปิดให้บริการเข้าชมและทำบุญได้ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.

Hilight :  เชื่อหรือไม่ว่า องค์พระบรมธาตุแห่งนี้ไม่มีเงา โดยไม่ว่าแสงอาทิตย์จะส่องกระทบไปทางใด ก็จะไม่สามารถมองเห็นเงาของยอดเจดีย์ได้ ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเป็นเพราะอะไร ความมหัศจรรย์นี้ทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้บรรจุให้ เจดีย์ยอดทองของวัดพระมหาธาตุฯ แห่งนี้เป็น 1 ใน unseen Thailand , สักการะรูปเคารพของ ท้าวจตุคาม(เท้าขัตตุคาม)และท้าวรามเทพ(เท้ารามเทพ) 2 เทพผู้คอยปกปักรักษาองค์พระบรมธาตุอันเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธศาสนาประดิษฐานอยู่ ณ ประตูซ้าย-ขวาทางขึ้นลานประทักษิณ , สักการะ รูปปั้นพระนางเหมชาลาและเจ้าชายทนทกุมาร พระธิดาและพระโอรสผู้อัญเชิญพระทันตธาตุ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้ 

การเดินทาง : เนื่องจากวัดอยู่ในตัวเมืองการเดินทางค่อนข้างสะดวก หากขับรถมาจากตัวเมืองให้ใช้เส้นทางถนนราชดำเนิน มุ่งหน้าหัวถนน ผ่านสนามหน้าเมือง -วัดเสมาเมือง – ศาลากลาง – ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอวัดอยู่ทางด้านขวามือ กรณีเดินทางด้วยรถสาธารณะ มีบริการรถเส้นทาง หัวถนน – สนามกีฬา ให้บริการทั้งวัน ค่าบริการคนล่ะ 10 บาท ตลอดสาย

“แม่” นักเที่ยว

หาก “คุณแม่” ยังเป็นคุณแม่ยังสาวที่เรี่ยวแรงยังมีเหลือมากมาย แนะนำว่า นอกจากพาคุณแม่ไปทำบุญแล้ว ยังสามารถพาคุณแม่ไปท่องเที่ยวตามที่ต่างๆ ตามกำลังทรัพย์ของลูกๆแต่ละคนได้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า , เที่ยวป่าชมธรรมชาติ , เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือ เที่ยวต่างประเทศในวันหยุดยาวก็ยังได้ค่ะ แต่งานนี้ PaiNaiDii Diary เน้นเที่ยวเมืองไทย สบายใจกว่า จึงจัดที่เที่ยวแนะนำมา 3-4 ที่ ให้พอเป็นแนวทางแก่คุณลูกๆทั้งหลายค่ะ

เมืองโบราณ สมุทรปราการ

สำหรับลูกๆที่ไม่มีเวลา งบน้อย แต่อยากพาแม่เที่ยวทั่วไทย แนะนำไปที่นี่เลยค่ะ เมืองโบราณสมุทรปราการ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่จะรวบรวมเอาสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในทุกๆจังหวัดทั่วประเทศ มาจำลองไว้รวมกันที่นี่ โดยแบ่งการเดินทางออกเป็นภาคต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ตามคตินิยม ความเชื่อทางศาสนา และ จินตนาการ ที่สร้างขึ้นมา นอกเหนือจากสถานที่ที่จำลองมาจากสถานที่จริงอีกด้วย  ตั้งอยู่ที่ 296/1 หมู่ 7 ถนนสุขุมวิท ต.บางปูใหม่ อ.เมือง สมุทรปราการ เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.

Hilight : สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ที่จำลองมาเหมือนจริง ต่างแค่ขนาดเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีโซนพื้นที่ตลาดน้ำ ที่จำลองการใช้ชีวิตของผู้คนริมฝั่งคลอง รวมไปถึง ความอลังการของการสร้างเมืองตามคตินิยมความเชื่อทางศาสนา ที่เน้นรูปแบบที่สวยงาม

การเดินทาง : กรณีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลให้ใช้ทางด่วน ปลายทางสำโรง-สมุทรปราการ เมื่อถึงสามแยกสมุทรปราการ ให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท เส้นที่จะไปบางปู  ตรงมาเรื่อยๆ ประมาณ กม. 33  ก็จะเจอเมืองโบราณ ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายมือ  หากเดินทางด้วยรถบริการสาธารณะ  มีรถสาย ปอ. 511 (สายใต้ใหม่-ปากน้ำ) ลงที่สุดทางแล้วต่อรถสองแถวสาย 36 ซึ่งจะวิ่งผ่านหน้าทางเข้าเมืองโบราณ บอกคนขับว่า ลงเมืองโบราณ

ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม

เบื่อเที่ยวในเมือง หันพาคุณแม่ไปใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมกิน อยู่ อย่างไทย ได้รสชาติ ต้องไปเที่ยวตลาดน้ำค่ะ และตลาดน้ำที่ Hot Hit Chic Chill ที่สุดในยุคนี้ หนีไม่พ้น ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งกลายเป็นตลาดน้ำมีชีวิต ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยว หรือ แวะพักผ่อนเป็นจำนวนมาก เดินทางสะดวก ที่สำคัญ สิ่งอำนวยความสะดวกและที่พักต่างๆมีรองรับนักท่องเที่ยวอย่างพร้อมมูล งานนี้คุณแม่ไม่เหนื่อยอย่างแน่นอนค่ะ เปิดตลาดทุกเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาประมาณ 11.00 น. เป็นต้นไปค่ะ

Hilight : อาหารอร่อย สินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อเลือกหา เป็นของใช้ ของฝาก  , นั่งเรือไหว้พระริมน้ำ , นั่งเรือชมวิถีชีวิตริม 2 ฝั่งคลอง แม่น้ำแม่กลอง และ ทีเด็ดสุด ล่องเรือชมหิ่งห้อยนับร้อยพัน ที่เปล่งเสียงระยิบระยับ ริมน้ำใต้ต้นลำพู

การเดินทาง : จากกรุงเทพ ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง ครึ่ง โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 35 ( ถ.พระราม 2 สายธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสี่แยกมหาชัย-นาเกลือประมาณหลักกิโลเมตรที่ 64 จะเจอทางแยกต่างระดับทางด้านซ้ายมือเพื่อเข้าสู่ตัวเมืองสมุทรสงคราม(แม่กลอง) ซึ่งอยู่ขวามือและเดินทางต่อไปอัมพวา โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ)ทางไปอำเภอดำเนินสะดวก ประมาณ 6 กิโลเมตรจากตัวเมืองสมุทรสงคราม จะพบสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าตัว อำเภออัมพวาเพื่อมุ่งหน้าไปยังตลาดน้ำอัมพวา หรือจะนั่งรถโดยสารสาธารณะก็มีบริการทั้งแบบรถตู้ , รถประจำทาง และรถไฟ

โครงการศูนย์แสดงเรือพระราชพิธีจำลอง 4 มิติ  พัทยา

ตั้งอยู่ 353/54 ม.9 ถ.สุขุมวิท อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เหมาะกับคุณแม่ที่รักการท่องเที่ยวแบบไทยๆ ค่ะ ที่นี่จะเป็นสถานที่รวบรวมเอาเหล่า เรือพระราชพิธีโบราณในสำนักพระราชวัง ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน นำมาแสดงให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมกัน โดยแบบที่สร้างขึ้นมาจะจำลองจากแบบจริง โดยฝีมือช่างสิบหมู่ สำนักพระราชวัง

Hilight : ความวิจิตรเหมือนจริงของงานสร้างที่จำลองจากเรือจริงในอัตรา 10 : 1 พร้อมการแสดงบนม่านน้ำ ภายใต้การขับกล่อมการเดินทางด้วยกาพย์เห่เรืออันไพเราะและทรงคุณค่า , ตื่นตาไปกับการแสดง แสง สี เสียง สุดอลังการ จากทีมงานกันตนา ที่บรรจงผลิตการแสดงในรูปแบบ 4 มิติ ให้ได้รับความรู้สึกเสมือนร่วมอยู่ในสถานที่จริง , เลือกซื้อสินค้างานฝีมือที่ระลึกมากมาย

การเดินทาง : จากถนนสุขุมวิทวิ่งผ่านถนนพัทยาเหนือก่อนถึงพัทยากลางเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสยามคันทรีคลับ ห่างจากปากทางสุขุมวิท 200 เมตร เลี้ยวขวาเข้าโครงการด้านหลังสนามฟุตบอล  (อยู่ตรงข้ามพัทยากลาง)

พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ

สำหรับคุณแม่ที่คลั่งไคล้ดารา หัวใจวัยสะรุ่น แนะนำคุณลูกๆพาไปกระทบไหล่คนดังแบบชิดใกล้ กับพิพิธภัณฑ์หุ่นชี้ผึ้ง มาดามทุสโซ ที่รวบรวมเอาหุ่นขี้ผึ้งคนดัง จากทุกมุมโลก ในแบบที่เหมือนจริงที่สุด  มาจัดแสดง โดยตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 ห้างสรรพสินค้า “สยามดิสคัฟเวอรี่” นี่เองค่ะ โดยเปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่ เวลา 10.00 – 21.00 น.

Hilight : หุ่นขี้ผึ้งคนดังกว่า 100 รายการ จากทุกมุมโลก หลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นอดีตเจ้าหญิงขวัญใจมหาชนผู้ล่วงลับอย่าง “เลดี้ไดอน่า” , อดีตจอมพลคนดังของไทย “จอมพล ป.พิบูลสงคราม” , มหาตมะ คานธี , หรือจะเป็นนักร้องขวัญใจวัยรุ่น “จัสติน บีเบอร์” , เจย์ โชว์ , บี้ สุกฤษฎิ์ ฯลฯ

การเดินทาง : สบายๆ กับการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS  ลงสถานี สยาม เดินต่อไปทางแยกปทุมวัน ห้างสยามดิสคัฟเวอรี่ ตั้งอยู่ทางด้านขวามือ บริเวณสี่แยก ค่ะ

“แม่” นักกิน

ถ้าคุณแม่ของคุณ ไม่ชอบเที่ยว ไม่สะดวกเดินทาง ลองมองหาร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดี จัดมื้อพิเศษกันบ้างดีมั้ยคะ นอกจากจะได้เปลี่ยนบรรยากาศการรับประทานอาหารแล้ว ยังทำให้คุณแม่ผู้ซึ่งคอยดูแลเรื่องอาหารการกินของเราได้พักผ่อน และได้รับการบริการบ้าง ยิ่งปัจจุบัน ร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี แข่งกันเปิดขึ้นมามากมาย รับรองได้ว่า มื้อพิเศษนี้ จะทำให้คุณแม่ประทับใจอย่างแน่นอน

ช็อคโกแลตวิลล์

ณ วินาทีนี้ หากพูดถึงร้านอาหารบรรยากาศดี เชื่อแน่ว่า “ช็อคโกแลต วิลล์” ร้านอาหารสไตล์ยุโรปย่าน เกษตร – นวมินทร์ ต้องเป็นร้านที่ได้รับการพูดถึงอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน โดยร้านตั้งอยู่ที่ ซอยนวมินทร์ 74 แยก 3-8 ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ เปิดร้านทุกวันค่ะ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 24.00 น. ขอแนะนำว่า ถ้าไปทานในวันหยุด หากไม่อยากรอคิวนานให้โทรจองก่อนจะดีที่สุดค่ะ หรือไม่อย่างนั้นก็ไปตั้งแต่ 5 โมงเย็น รับรองได้โต๊ะแบบไม่เสียอารมณ์แน่นอน

Hilight : อาหารของที่นี่มีหลากสไตล์ค่ะ ทั้งแบบไทย และ อิตาเลียน ที่เด่น แนะนำ “ซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง” หรือ จะเป็น พิซซ่าแป้งบางกรอบหน้าต่างๆ ก็น่าสนใจค่ะ และไฮไลท์อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ นอกจากอาหารท้องจะถูกปากแล้ว อาหารตาของที่นี่ก็ถูกใจค่ะ เพราะเค้าตกแต่งสถานที่ได้อย่างสวยงาม ลงตัว มีมุมให้ถ่ายรูปกันมากมายเลยทีเดียว

การเดินทาง : จากถนนเกษตร-นวมินทร์ ผ่านตลาดปัฐวิกรณ์ แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนวมินทร์ 74 ตรงไปจนสุดแยกที่ 3-8 จะเห็นร้าน ช็อคโกแลตวิลล์ อยู่ทางด้านขวามือ

กินปู ดูเรือบิน ที่ “เกาะลันตา”

หากเบื่อบรรยากาศร้านอาหารแบบเดิมๆ ลองพาคุณแม่ไปทานอาหาร พร้อมชมบรรยากาศท้องฟ้า ที่มีเครื่องบินลำน้อยใหญ่ หมุนเวียนเปลี่ยนไป แบบชิดใกล้กันดีมั้ยคะ กับร้านที่มีสโลแกนน่ารักๆว่า “กินปู ดูเรือบิน” พูดมาขนาดนี้ คงเป็นร้านอื่นไปไม่ได้ นอกจากร้าน “เกาะลันตา” ร้านอาหารบรรยากาศดี มีวิวเครื่องบินให้สัมผัส เหตุผลก็เพราะร้านตั้งอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ก็เลยได้ใกล้ชิดเครื่องบินที่เพิ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้าแบบ exclusive นี่เอง โดยร้านนี้ตั้งอยู่ที่ 88/11 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี สมุทรปราการ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่16.00 - 24.00 น.

Hilight : มีคนเคยบอกไว้ว่า หากอยู่ในบรรยากาศดี กับคนรู้ใจ อาหารที่ทานเข้าไปจะอร่อยมากกว่าเดิม ไฮไลท์ของร้าน “เกาะลันตา” ก็เช่นเดียวกัน เพราะบรรยากาศการกินอาหารไป โดยเฉพาะ เมนูปู ที่เค้าแนะนำว่าอร่อยทุกอย่าง พร้อมๆกันการตื่นตาไปกับการขึ้นลงของนานาเครื่องบินมากมายหลายแบบ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่มีที่ไหน นับเป็นของขวัญที่ถูกใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับอย่างแน่นอน

การเดินทาง : จากสนามบินสุวรรณภูมิ มุ่งหน้าตรงไปทางถนนกิ่งแก้ว ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ ก่อนเลี้ยวเข้าถนนกิ่งแก้วจะมองเห็นร้านอาหารเกาะลันตา อยู่ทางซ้ายมือ พอเลยทางโค้งลงสะพานให้เตรียมชิดซ้าย ร้านอยู่บริเวณเชิงสะพาน

The Deck by The River

ผ่านไปแล้ว 2 ร้านอาหารแนะนำ แบบ 2 บรรยากาศ ตัดสินใจได้หรือยังคะว่าจะพาคุณแม่ไปร้านไหน หากยังตัดสินใจไม่ได้ เอาไปอีก 1 แนว กับร้านอาหารบรรยากาศดีริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา กับ ร้าน “The Deck by The River” ร้านอาหารบรรยากาศดี ที่นอกจากจะอิ่มอร่อยไปกับอาหารหลากเมนูแล้ว ยังจะดื่มด่ำไปกับความงามของพระปรางค์วัดอรุณ ซึ่งอยู่ในบริเวณฝั่งตรงข้ามของร้านได้อีกด้วย โดยร้านนี้ตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 โรงแรมอรุณเรสซิเด้นท์ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิดร้านทุกวันระหว่างเวลา 08.00 – 22.00 น.

Hilight : บรรยากาศริมน้ำกับพระปรางค์วัดอรุณที่มีความสวยงาม และจะงดงามยิ่งขึ้น หากเป็นเวลาพระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ด้วยแสงสีทองที่ค่อยๆทอทาบผืนน้ำ ก่อเกิดภาพงามจับตา รับรองว่าจะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม

การเดินทาง : จากถนนมหาราช ตรงมาทางวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ขับเลยตลาดท่าเตียนมาประมาณ 50 เมตร แล้วเลี้ยวเข้าซอยประตูนกยูง เข้าไปจนสุดซอย จะเห็นโรงแรมอรุณเรสซิเดนท์ ตั้งอยู่ทางด้านขวามือ ร้านอาหารเดอะเดคบายเดอะริเวอร์ อยู่ชั้น 1 ของโรงแรม