เขาช้างเผือก.........เกือบเป็นเพียงความฝัน!?!
ท้องฟ้าแจ่มใสพิกล!! จนเราต้องร้องเพลงเธอเห็นท้องฟ้านั่นไหมของทีโบน แล้วเอ่ยถามคนนำทางว่า เพ่ แน่ใจเหรอว่าฝนจะไม่ตก คำตอบที่เราได้รับ "โอ๊ย ฝนที่นี่ไม่ตกมาเป็นเดือนแล้ว" "เอ่อเพ่ แล้วไมเมฆนั่นมันดำจังอ่ะ ยังกะเมฆฝน" คนนำทางคนเดิมเสียงอ่อย "นั่นสิ คงไม่มั้ง หน้าหนาวแล้วนี่นา" โถ โถ ลองตกสิมีหวังเศร้ากันทั้งคณะ เสื้อผ้าก็ชุดเดียวเลยที่ใส่อยู่กะตัวเนี่ย ไอ้ที่ติดไปกับหลังลูกหาบนั่นมีแต่เสื้อหนาว แล้วก็ อุอุ เบียร์ แถมเป้นั่นเราก็ไม่ได้คลุมกันฝนด้วย เสื้อก็ตัวเดียว กางเกงก็ตัวเดียว กกน.ก็ตัวเดียวอีก มีหวังนอนเน่าคาเต็นท์แน่ _ _"
เก้าโมงเป๊ง เริ่มออกเดินเท้า 6กิโลครึ่ง สู่จุดกางเต็นท์
อ่ะเดินกันไปคุยกันไป เขาช้างเผือกเนี่ยเป็นที่ท่องเที่ยวเดินป่าแห่งใหม่ ขึ้นกับอช.ทองผาภูมิ เพิ่งมาฮิตเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้เอง การจะมาไม่ได้ทำกันง่าย ๆ ต้องทำเรื่องล่วงหน้าจองคิวยาวเหยียด เนื่องจากสภาพเส้นทางลาดชันมีหน้าผาหลายช่วง อาจผลัดตกเขาตายได้ เพื่อความปลอดภัยทางอช.จึงจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละวันไว้เพียงไม่เกินหกสิบห้าคนเกินได้นิดหน่อย อ้อ ทางอช.ได้จัดระดับความยากของเส้นทางสายนี้ไว้ที่ความยากระดับ 3 มีการมอบประกาศนียบัตรสำหรับผู้ขึ้นถึงยอดเขาได้สำเร็จด้วย นั่น มีเพื่อนร่วมทางผ่านมาพอดี หน้าซีดเชียว อ่ะถามเค้าหน่อย "เป็นไงบ้างครับ"
photo by ชายเอ ทุ่งรังสิต
เมฆฝนที่แผ่ปกคลุม ช่วยบดบังแสงแดด ให้สิ้นความร้อนแรง ทริปหน้าหนาวท้องฟ้าแปลกๆของพวกเรา จึงค่อนข้างเดินสบายใต้ร่มเงาเมฆ อันที่จริงใส่ชุดลุยแดดหนาวกันเต็มที่เลยนะเนี่ย
ในที่สุดฝนเจ้ากรรม ก็ตกกระหน่ำฟ้า ไรฟร่ะเนี่ย นี่มันฤดูอะไรกัน!! ฝนตกหนักมาก มันหยุดการเดินทางของเราไว้ตรงที่เหลืออีกเพียงครึ่งกิโลเมตรก่อนถึงจุดแค้มป์ แต่ยังมีโชดดีในโชคร้าย มันมาตกเอาตอนที่ผมผ่านเพิงพักของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่มาเลือกทำเลกางเต็นท์นอนตรงนี้แทนที่จะเป็นตรงจุดกางเต็นท์เบื้องล่างกลางร่องเขาข้างหน้านั่น เพียงเพราะตรงนี้เป็นทำเลที่หลบลมมากกว่า
photo by Eriko
เพิงฟลายชีตขนาด 10คน บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นศูนย์อพยพ "เข้ามาหลบก่อนครับ เชิญ เชิญ" เจ้าของสถานที่ร้องชวนนักเดินทางคนแล้วคนเล่าที่กระเจิดกระเจิงหนีฝนผ่านมา แม้กระทั่งเพื่อนผมบางคนที่มุ่งหน้าไปก่อนก็ยังต้องวิ่งย้อนกลับมาตายรังเดียวกัน ฝนไม่มีทีท่าจะหยุดตกง่ายๆ หลังคาฟลายชีตจะกลายเป็นสระว่ายน้ำแล้ว ต้องคอยกระทุ้งดันไม่ให้น้ำท่วมขัง ดีว่าดินบริเวณนี้ดูดซับน้ำได้เร็วไม่อย่างนั้นคงไหลย้อนเข้ามานองพื้น ตกหนักตกนานจนเริ่มเป็นห่วงอุปกรณ์อีเล็คทรอนิคส์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพ มือถือ iPod จีพีเอส โอ้ว กระเป๋าตังค์อีก ดีที่มีคนเสียสละถุงก๊อบแก๊บมาให้พอได้กันน้ำหน่อย ผมผลอยหลับไปจนร่วมชั่วโมงเต็ม ๆ ฝนจึงได้ซาลง
พลันสายหมอกก็ขาวโพลนไปทั่ว
ฝนขาดเม็ดช่วงสั้นๆ แต่ก็ยาวพอให้เราออกเดินทางต่อ และไปถึงแค้มป์ของเราในที่สุดก่อนจะเทกระหน่ำซ้ำลงมาอีกครั้ง คราวนี้มาเป็นพายุบุแคม! รวมระยะเวลาเดินทางทั้งสิ้น 6 ชั่วโมงครึ่ง พักใหญ่ฝนจึงสงบลงอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังคงพายุลมแรง พอได้ออกมายืนสำรวจสภาพการณ์ ยอดเขาช้างเผือกเบื้องหน้าฝังจมเข้าไปในม่านหมอกหนาซะแล้ว นายตั้นหัวหน้าทริปสต๊าฟทีเคทีจึงแจ้งข่าวร้ายแก่เรา อันตรายเกินกว่าจะเสี่ยงให้ขึ้นไปครับ อ้าว อุตส่าห์ถ่อขึ้นมาถึงนี่ จะอดขึ้นสันคมมีดซะงั้น ให้สงสัยว่าขึ้นเย็นนี้ไม่ได้ก็ขึ้นพรุ่งนี้สิ นายตั้นแถลงไขต่อ คือเขาช้างเผือกเนี่ยนิยมขึ้นกันตอนเย็นไปชมพระอาทิตย์ตกกัน หมอกแบบนี้ขึ้นไปก็ไลท์บอย สันคมมีดทัศวิสัยก็ไม่ดีจุดนั้นอันตรายที่สุดเพราะอยู่ริมหน้าผาลาดชัน ถ้าขึ้นตอนเช้าจะทำให้เดินทางกลับกรุงเทพไม่ทัน
เซ็งห่าน! แต่พวกเราก็ยังเฮฮา อย่างน้อยบางคนรวมทั้งผมยังมีเจ้าสิ่งนี้ หุหุ ^ ^ อะไรเอ่ย? ตัวเขียวๆ ป๋องยาวๆ โย่วโย่ว
เช้าวันใหม่ แสนสดใส
หลังเก็บภาพตะวันขึ้นสวยๆ ก่อนเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับ! เราก็ได้รับข่าวดี ปฏิบัติการพิชิตฝันวัดใจกับสันคมมีดและขึ้นเหยียบยอดเขาช้างเผือก ถูกหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง มติเป็นเอกฉันท์เราจะลุยกันต่อ เลื่อนกำหนดการลงออกไปสองถึงสามชั่วโมง Yesss
จุดกางเต็นท์ แสนคลาสสิค พิกัด14.725องศาเหนือ 98.382องศาตะวันออก คลิกดูสิ ซ้ายเขาขวาเขา หน้าเหวหลังเหว คอเบียร์อย่างเราขอขนานนามมันว่าสันซดเบียร์ โหะ โหะ นายตั้นยืนส่ายหัวบ่นเสียดายหากเมื่อวานฝนไม่ตกล่ะก็เช้าวันนี้ทะเลหมอกข้างหน้าเรานี้อลังการแน่ๆ เอ่อ เสียดายด้วยคน สำหรับใครที่ต้องการทราบข้อมูลห้องส้วมล่ะก็ ปัจจุบันบนนี้มีสี่ห้องครับ แต่! ไม่เข้าได้เป็นดีที่สุด จริงๆนะตัวเธอว์ คุณๆมาเห็นแล้วจะเต็มใจอั้น
ได้เวลาวัดใจ เจ็ดโมงตรงเป๊ง เหล่านักล่าฝันเริ่มออกเดิน มุ่งหน้าตะวันออกเชิดหน้าตั้งขึ้นสู่สันคมมีด หรืออีกสมญาหนึ่งว่าสันวัดใจ ส่วนที่แคบที่สุด ซ้ายหุบเหวลึกน่าหวาดเสียว ขวาเหวกว้างบาดใจ
หินแปลกตา ลักษณะเนื้อหินที่มีชั้นเหมือนหินอ่อนแซม พบเห็นทั่วไประหว่างทางขึ้นสันคมมีด ผมเองไม่มีความรู้เรื่องดูหิน ความรู้ที่มีก็แค่เพียงรู้ว่ามันแปลกดี
ถึงแล้ว สันคมมีด พิกัดความเสียว 14.7255องศาเหนือ 98.3853องศาตะวันออก Alt.1088เมตร คลิกซิจ๊ะ
ให้ชมกันจะจะ สันคมมีด สันวัดใจ สันแห่งความเสียว เพื่อนเราบางคนไม่ผ่านจุดนี้ก็เลยมานั่งส่งเพื่อน นั่งดู นั่งให้กำลังใจ และฝากผู้ที่ก้าวข้ามไปเป็นตัวแทนพิชิตยอดเขาช้างเผือก ภาพนี้เป็นภาพขาลงของเหล่าผู้ชิตนะครับ ขาลงเสียวกว่าเยอะ
photo by ชายเอ ทุ่งรังสิต
มาช่วยกันเชียร์เพื่อนเรากัน สู้ สู้ เอ้า ฮีบ รถติดยาวเหยียด กดดัน _ _" เย้ ผ่านมาได้อีกหนึ่งคน
มองกลับไปยังที่ซึ่งเรามา เขาช้างเผือกนับว่าเป็นเส้นทางเดินป่าตามสันเขาที่สวยงามมาก ๆ
มุ่งสู่ฝัน พ้นสันคมมีดทางเดินยังคงเป็นสันเขากว้างบ้างแคบบ้าง แต่ความลาดชันลดลง ทัศนียภาพกว้างไกลขึ้น อากาศเย็นสบาย มองไปรอบตัวทุกสิ่งล้วนอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา มีเพียงทิศทางข้างหน้าเท่านั้นที่ยังคงสูงขึ้น ๆ เอ่อ อันที่จริงแล้ว มันขึ้นๆ ลงๆ นะ เราไต่ระดับความสูงต่อไป และในที่สุด ยอดสูงสุดก็ปรากฏโฉมอยู่เบื้องหน้า
แดดอ่อนๆ ลมเย็นๆ เมฆลอยปะทะร่าง ใครก็ตามที่หลงรักเหลี่ยมเขาสูง นาทีนี้เชื่อว่าทุกคนเหล่านั้น คงอิ่มสุขกันถ้วนทั่ว
ยอดหัวช้าง (จุดสูงอันดับสอง)
ยอดเขาช้างเผือก (จุดสูงสุด 1249 m.)
จวนถึงแล้ว อึดใจเดียวเท่านั้น
ในที่สุด ปลายเท้าทั้งสองของเรา ก็มาถึงเชิงทางขึ้น สู่จุดหมายปลายทาง
แถวตอนเรียงเดี่ยว บ้างเดินบ้างคลาน สามขาบ้างสี่ขาบ้าง บางคนพลังเหลือเฟือก็ใส่เกียร์วิ่งลุยเลยก็มี
สู่จุดสูงสุด สู่ยอดเขาช้างเผือก