อัมพวา อำเภอยอดนิยมแห่งจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายและหลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี วิถีชีวิต และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ลองไปดูกันมีที่ไหนที่เป็นที่เที่ยวยอดนิยมบ้าง
ข้อมูล : ก่อตั้งโดยมูลนิธิสุนทราภรณ์ โดยการนำอาคารไม้โบราณ ริมคลองอัมพวา อันเป็นถิ่นกำเนิดของครูเอื้อ สุนทรสนาน เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการประวัติผลงานของครูเอื้อ ศูนย์รวมข้อมูลสำหรับบุคคลทั่วไปที่สนใจค้นคว้าเรื่องราวของเพลงสุนทราภรณ์ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เปิดให้แฟนเพลงเข้าไปนั่งฟังเพลง ค้นคว้า อ่านหนังสือ นอกจากนี้ยังแสดงของใช้ส่วนตัวของครูเอื้อ และภาพเก่า ๆ ที่หาชมได้ยาก รวมทั้งจำหน่ายของที่ระลึกและผลงานเพลงของครูเอื้อ สุนทรสนาน สถานที่แห่งนี้ยังนับเป็นส่วนหนึ่งใน "โครงการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นชาวอัมพวา" ของมูลนิธิชัยพัฒนา ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารีฯ อีกด้วย
ที่ตั้ง : 193-195 อาคาร ตลาดน้ำอัมพวา ถนนบางกะพ้อม-แก้วฟ้า ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม 75110
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เวลา 11.00-20.00 น.
การเดินทาง : ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 ถนนสายธนบุรี-ปากท่อ (พระราม 2) ผ่านสี่แยกมหาชัย-นาเกลือ ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 63 จะมีทางแยกต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม หรือใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~
ข้อมูล : เรือนขนมไทย เป็นทั้งพิพิธภัณฑ์จัดแสดงขนมไทยชนิดต่างๆ และจุดจำหน่ายขนมไทยหลากหลายชนิด เนื่องเพราะที่อัมพวาแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นทั้งแหล่งกำเนิด และต้นตำรับของอาหาร และขนมไทยหลายประเภทด้วยกัน ซึ่งขนมที่มีหน้าตาสวยงาม สีสันสดใส ส่วนใหญ่จะเป็นขนมที่มาจากวรรณคดีแทบทั้งสิ้น โดยขนมไทยที่ขึ้นชื่อที่สุดของอัมพวา คือขนมจ่ามงกุฎตำรับดั้งเดิมของสมเด็จพระศรีสุริเยนทร
ที่ตั้ง : อาคาร ตลาดน้ำอัมพวา ถนนคลองอัมพวา ตำบลอัมพวา อำเภออัมพวา สมุทรสงคราม 75110
วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 14.00 - 21.00 น.
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) ถึง กม.ที่ 63 เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ผ่านตัวเมือง จากนั้นเข้าทางหลวง 325สมุทรสงคราม-บางแพ กม.ที่ 36-37 มาทางแยกซ้ายเข้าไปทางที่จะไปอุทยานฯ ร.2 ตลาดน้ำจะอยู่ใกล้กับอุทยานฯ ร.2
~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~
ข้อมูล : เป็นวัดของตระกูลราชินิกุลบางช้าง อยู่ติดกับอุทยาน ร. 2 สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 หลังวัดแห่งนี้เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของหลวงยกกระบัตร (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) และ คุณนาค (สมเด็จพระอมรินทรามาตย์พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 1) และเป็นสถานที่พระราชสมภพของรัชกาลที่ 2 เชื่อกันว่าบริเวณพระปรางค์ของวัดอัมพวันเจติยาราม เดิมเป็นเรือนที่คุณนาคใช้เป็นที่คลอดคุณฉิมบุตรชาย ซึ่งต่อมาได้เป็น พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย วัดอัมพวันเจติยารามได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันวัดอัมพวันเจติยารามเป็นพระอารามหลวงชั้นโท พระอุโบสถตลอดจนถาวรวัตถุในวัดนี้ ส่วนใหญ่เป็นศิลปะและสถาปัตยกรรมในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งนับเป็นพระอุโบสถที่มีความงดงาม นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยประดิษฐาน
ที่ตั้ง : เหนือปากคลองอัมพวา ตำบลอัมพวา สมุทรสงคราม 75000
วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ) ไปถึงหลัก กม.ที่ 63 ชิดซ้ายใช้ทางคู่ขนานต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม ถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวา แล้วเลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟ ถึงสามแยกไฟแดงแล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งตรงไปประมาณ 6 กม. ถึงสามแยกอัมพวาชิดซ้ายเข้าอัมพวา วิ่งตรงผ่านตลาดอัมพวา ข้ามสะพานคลองอัมพวา(สะพานเดชาดิศร) ซุ้มประตูทางเข้าวัดอยู่ซ้ายมือ
~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~
ข้อมูล : ตลาดร่มหุบ หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดแม่กลอง แต่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า ตลาดเสี่ยงตายเป็นตลาดที่ติดอยู่กับสถานีรถไฟแม่กลอง และก็เป็นส่วนหนึ่งของตลาดเทศบาลจังหวัดสมุดสงคราม ตลาดร่มหุบ เริ่มมาตั้งขายบริเวณทางริมรถไฟประมาณปี พ.ศ. 2527 เป็นตลาดที่อยู่บนทางรถไฟ สายแม่กลอง-บ้านแหลม พ่อค้า-แม่ค้า ตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนนสำหรับจับจ่ายซื้อของ เป็นเสน่ห์และความสนุกสนานของบรรดานักท่องเที่ยว เวลารถไฟแล่นผ่านตลาดแม่ค้าที่ขายของอยู่บริเวณใกล้ๆกับรางรถไฟนี้จะเก็บข้าวของและหุบร่มของร้านตัวเอง และเมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม
ที่ตั้ง : สถานีรถไฟแม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม สมุทรสงคราม 75000
วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนพระราม 2 (ถนนธนบุรี-ปากท่อ เดิม) ไปถึงหลัก กม.ที่ 63 ชิดซ้าย ใช้ทางคู่ขนานต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงครามถึงสี่แยกแรกตรงไปเข้าตัวตลาดถึงสี่แยกที่สอง(แยก โรงพยาบาล สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า) เลี้ยวขวาและตรงไป ข้ามทางรถไฟ ก็จะถึง ตลาดร่มหุบ
~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~
ข้อมูล : เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนานำที่ดินที่คุณประยงค์ นาคะวะรังค์ ชาว อัมพวา ได้น้อมเกล้าฯ ถวายมาดำเนินการพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนอัมพวา เพื่อสืบสานภูมิปัญญาชาวบ้านและอนุรักษ์วิถีการดำเนินชีวิตของชาวอัมพวา และด้วยที่ "ชุมชนอัมพวา" เป็นชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่เกี่ยวข้องกับความเป็นชาติไทย ซึ่งอนุชนรุ่นหลังสามารถหวนรำลึกและมองย้อนเห็นภาพอดีตอันรุ่งเรืองถึงความเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรม และประเพณีที่งดงามที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ
ที่ตั้ง : โครงการ อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ 185 - 191 ถนนประชาอุทิศ อัมพวา สมุทรสาคร 75110
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพระราม 2(ธนบุรี-ปากท่อ) กิโลเมตรที่ 64 แยกเข้าตัวเมืองสมุทรสงครามแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 325 มุ่งหน้าเข้าสู่อัมพวา และอุทธยาน ร.2แล้วเลี้ยวขวาตรงข้ามซุ้มประตูวัดอัมพวันเจติยาราม ตรงมาจนพบลานวัฒนธรรมนาคะวะรังค์ ของมูลนิธิชัยพัฒนา อยู่ด้านขวามือ
วันเวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน
~คลิกชมภาพเพิ่มเติมและอ่านรีวิว~
ข้อมูล : ใครมาเยือนอำเภออัมพวาแล้วไม่มาช้อปปิ้งที่ตลาดน้ำยามเย็นอัมพวาถือว่ามาไม่ถึงเชียวล่ะ ตลาดนี้นิยมท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ โดยในคลองอัมพวาจะมีเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าพายเรือขายอาหาร ขนม ของฝาก และเครื่องดื่ม ได้บรรยากาศที่ทำให้นึกถึงอดีตอันน่าถวิลหา เจริญหูด้วยเสียงเพลงตามสายของชาวชุมชน เพลิดเพลินกับตลาดน้ำยามเย็นอัมพวา และด้วยเสน่ห์ของบ้านเรือนสองริมฝั่งที่ยังคงความโบราณไว้เช่นเดิม ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ 15.00 น. - 20.00 น.
การเดินทาง : จากตัวจังหวัดใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 325 ทางเดียวกับไปอำเภอดำเนินสะดวกและอุทยาน ร.2 ประมาณ 6 กม ก่อนถึงสามแยกไฟแดง มีทางแยกทางซ้ายเข้า อ.อัมพวา ไปอีกประมาณ 800 เมตร ทางแยกซ้ายมือ เข้าตลาดอัมพวา จอดรถบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภออัมพวา
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว ~
ข้อมูล : เที่ยวตลาดน้ำยามเย็นแล้วลองเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวชมตลาดน้ำยามเช้าดูบ้าง ย้ำว่าเป็นตลาดเช้าเพราะราวๆ 11 โมงตลาดน้ำท่าคาแห่งนี้ก็จะเริ่มวายแล้ว ความน่าสนใจอยู่ที่ ตลาดน้ำท่าคาคงความเป็นธรรมชาติของวิถีชีวิตชาวสวนริมน้ำ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นชาวสวน ซึ่งนำผลิตผลจากสวนมาขายด้วยตนเอง เพราะแม่น้ำลำคลองน้อยใหญ่ มีอยู่มาก ทำให้วิถีการดำเนินชีวิตของชาวบ้านผูกพันกับแม่น้ำลำคลอง ทั้งการสัญจรไปมาหาสู่กัน รวมไปถึงการประกอบอาชีพต่าง ๆ กลายเป็นเสน่ห์วันวานที่หลายคนอยากลองมาสัมผัสสักครั้งหนึ่ง ตลาดน้ำท่าคาเปิดเฉพาะวันเสาร์-วันอาทิตย์ และวันขึ้นหรือวันข้างแรม 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ เท่านั้น
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 11.00 น.
การเดินทาง : ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (สมุทรสงคราม-บางแพ) จากอัมพวา ทางที่จะไปอำเภอดำเนินสะดวก ประมาณ 10 กิโลเมตร ทางเข้าตลาดน้ำจะอยู่ทางฝั่งขวา (ทางเดียวกับทางเข้าวัดเทพประสิทธิ์) ให้กลับรถเข้าไปทางวัดเทพประสิทธิ์ ระยะทางจากปากทางประมาณ 5 กม. ตลาดน้ำท่าคาจะอยู่ทางซ้ายมือ
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว ~
ข้อมูล : โบสถ์แห่งนี้มีอายุมากกว่า 100 ปี หากต้องการความสงบ ที่แห่งนี้เหมาะสมที่สุด “อาสนวิหารแม่พระบังเกิด” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "โบสถ์บางนกแขวก" เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง มีทัศนียภาพสวยงาม เป็นโบสถ์มีขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบ กอทิก (Gothic) มียอดแหลมของอาคารพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ภายในประดับด้วยภาพเขียน และกระจกสี (Stained Glass) ได้รับอิทธิพลจากประเทศฝรั่งเศส เป็นความงดงามที่หาชมได้ยาก
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00 น. - 20.00 น.
การเดินทาง : มาตามเส้นทางสายสมุทรสงคราม-บางนกแขวก (เส้นทางเดียวกับอุทยาน ร. 2) เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร อาสนวิหารแม่พระบังเกิดอยู่เลยแยกสะพานสมเด็จพระอัมรินทร์ไปประมาณ 100 เมตร
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว ~
ข้อมูล : หนึ่งใน Unseen Thailand คือวัดบางกุ้งซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เดียวกับค่ายบางกุ้งแต่อยู่คนละฝั่ง กัน สร้างขึ้นสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ เป็นภาพพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม ที่สำคัญเคยเป็นที่ตั้งค่ายรบโบราณที่มีความสำคัญ ตามประวัติศาสตร์กล่าวไว้ว่าในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ทรงให้กองทัพเรือมาตั้ง ค่าย กำแพงล้อมที่วัดบางกุ้งแห่งนี้ เพื่อรบกับทัพข้าศึก เรียกว่า "ค่ายบางกุ้ง" จนภายหลังจากที่กรุงศรีอยุธยาได้แตกลงแล้ว พระเจ้าตากสินทรงโปรดให้ฟื้นค่ายบางกุ้งแห่งนี้อีกครั้ง โดยให้ตั้งกองทหาร ชาวจีนมารักษาค่ายไว้ และใช้เป็นที่รับศึกทัพพม่า โดยทรงยกกองทัพเสริม มาช่วยตีข้าศึกจนแตกพ่ายไปในสงครามครั้งแรกกับพม่า นับแต่สถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี ซึ่งได้สร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าทหารไทยได้อย่างมาก วัดนี้จึงมีความเก่าแก่กว่า 200 ปี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 16.30 น.
การเดินทาง : ใช้เส้นทางสายสมุทรสงคราม-บางนกแขวก (เส้นทางเดียวกับอุทยาน ร. 2) ก่อนถึงอาสนวิหารแม่พระบังเกิด เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานสมเด็จพระอัมรินทร์ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง ตรงไปประมาณ 6 กิโลเมตร
~ คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว ~
ข้อมูล : วัดเก่าแก่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สิ่งที่น่าสนใจอยู่ภายในวิหารเก่าของวัด ผนังวิหารด้านบนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังลักษณะแตกต่างจากทั่วไป คือ เป็นปูนปั้นลวดลายนูนแสดงเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธประวัติ ผนังวิหารด้านล่างโดยรอบมีช่องเจาะเป็นซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูป นอกจากนี้กลางวิหารยังประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองขนาดใหญ่ซ้อนกันสี่รอยลดหลั่นกันไป สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงธนบุรี เดิมมีแผ่นเงินหุ้มแต่ถูกขโมยไปเมื่อครั้งสงคราม พระพุทธบาทรอยที่ซ้อนลึกที่สุดนั้นเป็นไม้ประดับมุกยังคงหลงเหลือลวดลายงดงาม บริเวณลานวัดจะเห็นร้านกาแฟเล็ก ๆ จำหน่ายชา กาแฟรสชาติหอมอร่อยแบบดั้งเดิม
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 16.30 น.
การเดินทาง : โดยรถยนต์จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางซ้ายมือ จะมีทางแยกเข้าวัด