ช่วงเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมานี้ บก.พาชิมพาชม สังเกตเห็นสถานที่เช็คอิน และฟีดภาพบนหน้าเฟซบุ๊กในโลกโซเชียล ว่ามี The Jam Factory โครงการติดพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้แหละ ที่เป็นสถานที่ยอดฮิตติดลมบน จนกลายเป็นกระแสฟีเว่อร์อยู่พักใหญ่ ด้วยเสน่ห์ของโครงสร้างอาคารเก่า ที่ถูกรีโนเวทใหม่โดย "คุณด้วง ดวงฤทธิ์ บุนนาค" สถาปนิกชื่อดัง เจ้าของ บริษัท ดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด ซึ่งรับหน้าที่ Art Project ประจำโครงการ พร้อมครีเอท 3 โกดังที่น่าสนใจ ภายใต้พื้นที่สีเขียว ร่มรื่น สบายตา ซึ่งรับรองว่าคนชอบบรรยากาศชิลล์ๆ และรักงานศิลปะ ต้องปลื้มบรรยากาศทันทีที่ได้มาเยือนแน่นนอน!!
คุณดวงฤทธิ์เจ้าของโครงการ The Jam Factory ปรับพื้นที่โกดังเก่าของอดีตโรงงานถ่านไฟฉายตรากบ โรงงานน้ำแข็ง และโรงงานทำยา บนเนื้อประมาณ 4 ไร่ ให้กลายเป็นสถานที่ชิลล์เอ้าท์น้องใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ เชื่อมโยง อดีต ปัจจุบัน อนาคต และชุมชนไว้ด้วยกัน โดยการเก็บโครงสร้างอาคารเดิมเอาไว้ให้มากที่สุด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 โซน ในพื้นที่เดียว ประกอบด้วย ร้านหนังสือ Candide Books - ร้านกาแฟ li-bra-ry ,แกลอรีภาพ The Jam Factory Gallery และ ร้านอาหารไทย The Never Ending Summer หากคุณพร้อมแล้ว ตามมาชมความน่าสนใจในแต่ละโซนกันเลยดีกว่า...
เข้ามาด่านแรก ท่ามกลางความร่มรื่นบริเวณใต้ต้นไทรขนาดใหญ่ จะพบ ร้านหนังสือ Candide Books (ก็องดิด) และร้านกาแฟ li-bra-ry โซนนี้ต้องบอกว่าถูกใจเหล่าหนอนหนังสืออย่างแน่นอน ด้วยบรรยากาศร้านหนังสือสไตล์คาเฟ่ ที่เต็มไปด้วยหนังสือแนววรรณกรรม การเมือง ทฤษฎีสังคม มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษไว้บริการ ในบรรยากาศสงบ อบอุ่น ร่มรื่น เรียบง่ายเหมาะกับการนั่งอ่านหนังสืออย่างมาก แถมด้านหลังยังมีร้าน li-bra-ry ร้านชา กาแฟ โกโก้ ให้จิบเพลินๆ แค่เลือกนั่งตามมุมที่ชอบพร้อมหยิบหนังสือดีๆสักเล่มมาอ่าน แค่นี้ความผ่อนคลายก็มาเยือนแล้ว เชื่อเลยว่าหนอนหนังสือตัวจริงต้องหลงรักกับบรรยากาศสุดชิลล์ของที่นี่แน่!นอน!
The Jam Factory Gallery แกลอรี่จัดแสดงภาพขนาดย่อมที่ต้องเดินถัดเข้ามาจากร้านหนังสืออีกเล็กน้อย ที่นี่คือพื้นที่แสดงงานศิลปะผ่านภาพถ่าย และจัดเป็นนิทรรศการต่างๆ เช่น “ลองล่องยะลา” กระจกสะท้อนภาคใต้ เป็นต้น โดยบรรยากาศภายในสร้างความรู้สึกให้หวนถึงอดีต เพราะเจ้าของร้านตั้งใจคงเค้าเดิมของโกดังเก่าไว้ ทั้งกำแพงอิฐมอญสีแดง หลังคาสูงโปร่ง มีโครงเหล็กสำหรับแขวนภาพที่ใช้สำหรับการแสดง ถือว่าเป็นแกลอรี่ไม่หรูหรา แต่ดูดิบ เท่ และเก๋ไม่ซ้ำแบบใคร
The Never Ending Summer ร้านอาหารไทยแท้ที่ตั้งอยู่ในโซนสุดท้ายของโครงการ The Jam Factory ร้านตั้งอยู่ติดริมท่าน้ำ โดดเด่นตั้งแต่การเนรมิตรโกดังเก่าให้กลายเป็นร้านอาหารนั่งสบาย โดยคงโครงสร้างเก่าทุกอย่างเอาไว้ให้มากที่สุด บรรยากาศคล้ายกับโซนแกลอรี่ แต่เพิ่มครัวเข้าไป ทำให้ได้ร้านอาหารในกลิ่นอายของอดีตร่วมสมัย The Never Ending Summer ให้บริการอาหารไทยรสต้นตำรับ ส่วนมีเมนูอะไรน่าสนใจบ้าง ต้องพาไปพิสูจน์...
เริ่มจากเมนูแรก มัสมั่นเนื้อน่องลาย เมนูที่คนไทยภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งเพราะถูกยกย่อง ให้เป็น 1 ในอาหารที่อร่อยที่สุดของโลกมาแล้ว ที่นี่พิถีพิถันตั้งแต่เลือกใช้เนื้อน่องลายอย่างดีมาทำ ปรุงรสเข้มข้นตามสูตรต้นตำรับ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยยิ่งแถมยังหอมกลิ่นเครื่องเทศอีกด้วย
ไปต่อกันอีกหนึ่งเมนูที่ดีกรีความเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย กับ น้ำพริกลงเรือ ที่จัดมาเป็นเซ็ตใหญ่ เสิร์ฟพร้อมหมูหวาน ไข่เค็ม และผักสดเหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ รับรองว่ารสชาติน้ำพริกจัดจ้าน แซ่บได้ใจ!!
ความอร่อยยังไม่จบแค่นี้ แนะนำอีกหนึ่งเมนู ไข่พะโล้ ทางร้านใช้ทั้งไข่นกกระทาและไข่เป็ด ปรุงน้ำซุปพะโล้เข้มข้น ได้รสชาติหวานนิด เค็มหน่อย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ สักจาน ได้รสชาติกำลังดี
ปิดท้ายด้วยเมนูแสนธรรมดาที่อยู่คู่ครัวไทยมานมนาน แต่หากินยากในปัจจุบัน นั่นคือ ไข่เจียวดอกขจร ต้องบอกก่อนว่าเป็นเมนูอาหารตามฤดูกาลของที่ร้าน บางช่วงฤดูอาจจะเปลี่ยนเป็น ไข่เจียวดอกโสนบ้าง แต่รับรองว่าหอม กรอบ อร่อยเด็ดเหมือนกันทุกจานแน่นอน..
The Jam Factory มีหลากหลายความสุขให้เลือกสรร ทั้งแกลเลอรี่จัดแสดงภาพศิลปะ ร้านหนังสือ-กาแฟ ร้านอาหารไทย และกำลังจะเปิดตัวโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ด้านหน้าโครงการเร็วๆนี้ ต้องบอกว่าเป็น Factory ที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดการมาเยือนเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะ …..
41/5 ถ.เจริญนคร คลองสาน
กรุงเทพมหานคร 10600
เบอร์ติดต่อ 02-861-0953
เว็บไซต์ https://www.facebook.com/TheJamFactoryBangkok
เวลาเปิดบริการ ทุกวันเวลา 11.00-23.00 น.
ราคาต่อท่านโดยประมาณ 301-500 บาท/คน
กาเดินทาง ขับตรงไปให้สุดด้านในที่ทำการเขตคลองสาน แล้วกลับรถตรงออกมาเล็กน้อยด้านซ้ายมือจะเห็นสะพานข้ามคลองเล็กๆ ให้เลี้ยวซ้ายเข้ามาจะพบโครงการ