ฮิปสเตอร์ต้องมา! 8 ร้านกาแฟสุดเท่ในกรุงเทพฯ
เทรนด์การใช้ชีวิตขบวนล่าสุดที่ฮิตในเมืองไทย ใครก็ต่างพูดถึงวิถี Hipster Style ผู้เลือกเดินในเส้นทางที่ยักไหล่ให้กระแสหลัก ชื่นชอบศิลปะ เป็นตัวของตัวเอง และที่สำคัญคือชอบดื่มกาแฟในร้านชิลล์ๆ อาร์ทๆ ที่ไม่ใช่ร้านเชนชื่อดัง หากใครอ่านแล้วเริ่มรู้สึกอยากย่ำรอย Hipster ดูบ้าง PaiNaiDiiมีร้านกาแฟสุดเท่มาฝาก รับรองว่าแค่อ่านก็เริ่มได้กลิ่นหอมของกาแฟแก้วโปรดแล้วล่ะ...
01
Rocket Coffee Bar
แม้จะดูเป็นร้านคาเฟ่เรียบง่าย แต่ร้าน Rocket Coffee Bar ซอยสุขุมวิท 49 กลับซ่อนความน่าสนใจไว้มากมาย เริ่มตั้งแต่การตกแต่งในสไตล์นอร์ดิก (สแกนดิเนเวียน) เน้นความคลีน เรียบหรู แต่ดูอบอุ่นจากโต๊ะ-เก้าอี้ไม้ สะดุดตากับเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนพาดตัวยาวกลางร้าน และหาดูไม่ง่ายนักกับร้านกาแฟที่มีดีเจเปิดแผ่นเล่นเพลงเพลินๆ แถมเมนูเด่นอย่าง Rocket Fuel cold brew coffee ก็ยังโชว์ความเก๋ไก๋ เป็นกาแฟสกัดเย็นที่บ่มกันข้ามวันข้ามคืน บรรจุในขวดแก้วสีชาทึบแสง เทลงน้ำแข็งในแก้วที่มีเลมอนฝานบางๆ รออยู่ ส่วนเครื่องดื่มเบสิกอย่าง Latte, Cappuccino หรือจานหลักอย่าง Salami-Cheese Focaccia ก็อร่อย ชนิดไม่อ่อนข้อให้กัน
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
02
Old Town Cafe Bangkok
ความวินเทจเป็นอีกเสน่ห์ที่หนุ่มฮิปสเตอร์หลงใหล และถ้าอยากดื่มด่ำอารมณ์ย้อนยุคอย่างหนำใจ แนะนำให้ทอดน่องไปนั่งจิบเครื่องดื่มนุ่มๆ ที่ร้าน Old Town Cafe Bangkok ถนนเฟื่องนคร ซึ่งจำลองบรรยากาศกรุงเก่าไว้แน่นทุกอณู ทั้งโต๊ะ-เก้าอี้ไม้ ของสะสมสมัยโบราณ คลอเสียงเพลงบรรเลงเพราะๆ เหมาะมานั่งพักดับร้อนมากๆ แล้วสั่งกาแฟซิกเนเจอร์อย่าง Old Town Muddy Coffee กาแฟเย็นผสมมัทฉะลาเต้ พิเศษตรงที่เครื่องดื่มเย็นของร้านจะใช้นมสดและครีมสดมาผสมแทนนมข้นหวานและนมข้นจืด เพื่อให้ได้รสชาติของเครื่องดื่มเต็มที่ ต่อด้วย Hot Cappuccino ที่ใช้กาแฟอาราบิก้าจากเชียงรายส่งกลิ่นหอม รสนุ่มกำลังดี แกล้มขนมปังมัลติเกรนปาดด้วยเนย สมกับเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
03
Sora City
นอกจากธีมโดดเด่นของการประกาศตัวเป็นคาเฟ่จักรยาน เสน่ห์ที่ฮิปสเตอร์หลายคนเทใจให้ร้าน Sora City ซอยสุขุมวิท 26 คือสไตล์ความมินิมอลที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลอ่อน สะท้อนความเป็นญี่ปุ่นผสมอารมณ์สแกนดิเนเวียนได้อย่างดี ด้านบนมีพื้นที่จัดนิทรรศการโชว์งานศิลปะหมุนเวียนอยู่ตลอด ส่วนกาแฟหอมๆ ก็เด็ดไม่แพ้กัน ใช้เมล็ดกาแฟชั้นดีจากเชียงใหม่และเกาะสุมาตรา แนะนำให้ลอง Hot Caffe Latte หรือ Vanilla Bean Affogato ส่วนใครอยากหม่ำขนมรองท้องต้องไม่พลาด Blueberry Cream Cheese Pancake ที่มากินก็ครั้งก็ยังถูกใจ
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
04
Roots Coffee Roaster
เมื่อหัวใจในความรักเรื่องกาแฟถูกเทมารวมกัน จนเกิดเป็นร้าน Roots Coffee Roaster ซอยทองหล่อ 13 ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นเคาน์เตอร์บาร์ขนาดกะทัดรัด สำหรับคั่วกาแฟหอมๆ และชงสดแก้วต่อแก้ว แถมยั่วน้ำย่อยอีกเลเวล กับขนมอบกรุ่นจากเตา ที่เราสามารถมองเห็นได้ผ่านกระจกใส ในบรรยากาศสบายๆ เป็นกันเอง ถูกใจสาวกฮิปสเตอร์ และถึงแม้จะมีเมนูกาแฟให้เลือกไม่มากนัก แต่เรารับประกันว่าคุณจะติดใจในความเนียนของกาแฟคั่วชั้นดีที่จะสับเปลี่ยนทุกอาทิตย์ เช่น Sidamo Guji, Carmo de minas, Monte verde และอย่าลืมชิมซอฟต์คุ้กกี้อร่อยๆ ระดับอยากหิ้วกลับบ้าน ตบท้ายความอินดี้สำหรับค่ากาแฟ เลือกจะวัดใจลูกค้า โอเคเท่าไหร่หยอดเงินใส่โหลเท่านั้นเลย
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
05
Quest – Connaisseur Cafe
ชวนเหล่าฮิปสเตอร์ลง BTS พญาไท แล้วเดินอีกไม่กี่ก้าว ก็จะเจอ Quest – Connaisseur Cafe ร้านกาแฟที่พร้อมเสริฟ์ความอร่อยและสร้างแรงบันดาลใจชั้นเยี่ยม ทักทายด้วยความดิบเท่จากดีไซน์สไตล์ Loft พร้อมกำแพงกราฟิกลายแผนที่โลก ตอกย้ำในรสชาติด้วยเครื่องชงกาแฟหลากรูปแบบ แต่ตัวเด่นที่ต้องชิมแนะนำกาแฟกลั่นแบบ Cold Drip สกัดนานกว่า 12 ชั่วโมง รวมถึงการชงแบบ Siphon ที่จะได้ลิ้มเมล็ดกาแฟครบทุกรส ยิ่งสั่งเมอร์แรงมาทานคู่กันรับประกันว่าฟิน! จะเลือกดื่มด่ำกับบรรยากาศในร้าน หรือเลือกสะท้านอากาศดีๆ บริเวณ Outdoor ความอร่อยและอารมณ์ประทับใจก็ตามไปไม่ห่าง
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
06
One Ounce For Onion
โรงคั่วกาแฟ + คาเฟ่ + ร้านช้อปปิ้ง = One Ounce For Onion ซอยเอกมัย 12 ร้านกาแฟที่สร้างสมการความน่าสนใจอย่างลงตัว ใส่ไอเดียครีเอทในการแต่งร้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ประกอบขึ้นเอง ซึ่งดูเรียบง่ายแต่เท่ไม่เบา โซนที่นั่งมีทั้งแบบเคาน์เตอร์บาร์ สามารถนั่งจิบเครื่องดื่มสูดกลิ่นคั่วหอมๆ พร้อมคุยทุกเรื่องราวของกาแฟกับบาริสต้าได้อย่างเต็มที่ หรือนั่งชิคๆ ชมวิวด้านนอก แล้วอย่าลืมสั่ง Hot Latteซึ่งเมล็ดกาแฟถูกคั่วให้มีคาแรกเตอร์ที่ฉีกจากกาแฟแบบเดิมๆ ด้วยกลิ่นหอมของผลไม้ ทานคู่กับ แพนเค้กเออเกรย์ กรอบนุ่มสดชื่น ก่อนกลับอย่าลืมแวะซื้อของเก๋ๆ อย่าง แว่นตา กระเป๋าสะพาย กลับบ้าน รับรองว่าสวยแนวไม่เหมือนใคร
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
07
Dialogue Coffee and Gallery
“Free Space for Slow Life” สโลแกนนิยามความเนิบช้าของร้าน Dialogue Coffee and Gallery ถนนพระสุเมรุ ร้านแสนอบอุ่นกรุ่นกลิ่นกาแฟ ที่จะชวนคุณปลีกตัวจากความเนืองแน่น มานั่งชิลล์ในบรรยกาศเงียบสงบ ราวกับได้นั่งทบทวนพูดคุยกับตัวเอง นอกจากนี้ยังมีหนังสือดีๆ ให้อ่านมากมาย และฮิปสเตอร์ผู้หลงใหลศิลปะยังจะได้เสพงานอาร์ท-แกลลอรี่ ที่สับเปลี่ยนมาให้ชมอยู่ตลอด แนะนำให้นั่งละเลียด Cappuccino กาแฟหอมฟองนุ่ม รสชาติเบาๆ ที่ความอร่อยไม่เบาบาง ส่วนคอกาแฟรสเข้มต้องสั่ง Espresso เสิร์ฟพร้อมคุ้กกี้เนื้อนุ่มขึ้นชื่อจากนิวซีแลนด์ ที่ช่วยทอนรสเข้มให้กลายเป็นความกลมกล่อมที่ลงตัว
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
08
Kaffe 50
จากร้านเฟอร์นิเจอร์มือสองสไตล์วินเทจ ถูกจับแต่งตัวใหม่ให้กลายเป็นบาร์กาแฟเท่ๆ ในชื่อ Kaffe 50 เวิ้งซอยแจ่มจันทร์ (ถนนเอกมัย) ที่โดนใจอาร์ทติสและฮิปสเตอร์อย่างรุนแรง! ด้วยความเข้มขลังจากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ และของสะสมยุค Oldies สุดแนว หากใครถูกใจตัวไหนก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ ส่วนเรื่องกาแฟก็เน้นคุณภาพ โดยใช้มือคั่วกาแฟระดับอาชีพจากฝรั่งเศส จนสร้างความติดใจติดใจให้ลูกค้าทั้งไทยเทศ แนะนำเมนู Piccolo latte กาแฟรสกลมกล่อม หรือจะเป็น Cappucino หอมนุ่มละมุนลิ้น ปิดท้ายด้วยไฮไลต์อย่างเบอร์เกอร์หมูหมัก Pulled Pork อิ่มอร่อยเต็มคำในเวอร์ชั่นไส้ทะลัก ที่หากคุณจะกลับมาอีกครั้งก็ไม่น่าแปลกใจ
** คลิกชมภาพเพิ่มเติม และอ่านรีวิว **
ปาดฟองนมที่เลอะขอบปาก แล้วเอนหลังพิงกายช้าๆ หากอารมณ์ฮิปสเตอร์ยังกรุ่นไม่สร่าง เห็นทีต้องชวนสองเท้าไปชิมที่ร้านอย่างว่องไว...