ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต หนีไปนอนเล่นรับลมหนาวพร้อมผ่อนคลายกับธรรมชาติสุดว้าวว@เชียงราย
ภาพจาก www.phu-chaisai.com
หน้าหนาวขยับเข้ามาใกล้ๆ ได้เวลามองหาของขวัญให้กับตัวเองด้วยที่พักกายใจแบบ Slow Life กันอีกแล้วสินะ คราวนี้ บ.ก.พาชิมพาชม ขอพาคุณๆ หลบหนีความวุ่นวายในเมืองกรุงฯ แล้วมุ่งหน้าไปยังจังหวัดเหนือสุดของเมืองไทยอย่างเชียงราย เพื่อผ่อนคลายไปกับธรรมชาติสวย อากาศดี และวิถีชาวบ้าน กันดูสักครั้ง โดยเราจะไปพักยัง "ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต" รีสอร์ทสวยท่ามกลางธรรมชาติ ที่บอกเลยว่าคุณจะลืมความวุ่นวายเบื้องหลังไปแบบปลิดทิ้ง จะสวยและบริสุทธิ์อย่างที่โม้มั้ย...ไปชมด้วยตาตัวเองกันดีกว่าค่ะ
"ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต" รีสอร์ทสวยขนาดใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขาบนยอดดอยแม่สลอง หนึ่งในรีสอร์ทบูติคแห่งแรกๆของไทย ที่นำเอาวิถีชีวิตแบบคนเมืองเหนือมาผสานกับแนวทางรักสุขภาพ เพื่อนำมาส่งต่อความสุขให้กับผู้คนที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียน การเดินทางแม้จะอยู่บนดอยสูงก็สะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีจากสนามบินนานาชาติเชียงราย มุ่งหน้าอำเภอแม่จัน เมื่อถึงทางแยกขึ้นดอยแม่สลอง ให้ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางขวามือจะเห็นป้ายทางเข้า "ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต" ได้อย่างชัดเจน ถ้าเจอแล้วก็เลี้ยวเข้าได้เลยค่ะ
ลงจากรถปุ๊บสิ่งที่สัมผัสได้เป็นอย่างแรกคือ อากาศสดชื่นและเย็นสบายมาก (นี่ขนาดช่วงที่ บ.ก.พาชิมพาชมไปยังไม่เข้าหน้าหนาวแบบเต็มตัวนะ ถ้ามาช่วงหน้าหนาวน่าจะ "ฟิน" กว่านี้มั่กๆๆๆ) บริเวณรอบๆ รีสอร์ทเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ให้ความรู้สึกเหมือนมาเดินป่า ตลอด 2 ข้างทางของทางเดินแวดล้อมไปด้วยพรรณไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกผ่อนคลายสุดๆ
จุดเช็คอินตั้งอยู่บนเนินไม่สูงมากนัก พอเดินสบายๆ แอบเก๋ด้วยวิถีแบบชาวบ้านและธรรมชาติด้วยการทำเป็น "ศาลาไม้ไผ่" ขนาดใหญ่ มีความโล่ง โปร่งสบาย อากาศถ่ายเทได้ดี สัมผัสลมเย็นๆจากธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศ มีโซฟาตัวใหญ่ให้ได้นั่งพักผ่อนจัดวางไว้อย่างสวยงามหลายจุดเพื่อให้บริการแก่ผู้มาพัก บริเวณรอบๆยังคงคอนเซ็ปต์ใกล้ชิดธรรมชาติด้วยแมกไม้เขียวขจี ด้านหลังมีบ่อปลาพร้อมปลาสวยแหวกว่ายท่ามกลางป่าไม้ ช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูผ่อนคลายยิ่งขึ้น ณ จุดนี้จะใช้เป็นที่นั่งพักผ่อน พูดคุย พบปะกับนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆได้แบบเต็มที่ หรือจะถ่ายรูปเช็คอินอวดเพื่อนก็จัดเต็มไปเลยค่ะ มีมุมถ่ายรูปสวยๆหลายมุมเลยทีเดียว
ระหว่างเช็คอินเจอ PR. เจ้าถิ่นค่ะ "น้องปอนปอน" รอต้อนรับทุกคนอยู่ที่นี่ นอกจากจะ Friendly แล้ว "ปอนปอน" ยังใจดีพาเดินเล่นรอบบริเวณด้วยนะ
เดินทางมาไกล อยากเข้าไปพักผ่อนที่ห้องพักกันแล้วสิ น้องพนักงานใจดีพาเราออกเดิน พร้อมแนะนำเกี่ยวกับห้องพักที่นี่แบบถึงแก่น ทำให้เรารู้ว่า ที่นี่มีห้องพักรวมทั้งหมด 33 ห้องด้วยกัน โดยห้องพักจะออกแบบมาให้มีลักษณะแบบวิลล่า บ้านเป็นหลัง ตัวบ้านทำด้วยดินผสมไม้ไผ่ ไฮไลท์การตกแต่งของที่นี่คือเค้าจะเอาไม่ไผ่มาเป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นผนังห้องพัก ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์อย่าง ตู้ โต๊ะ เตียง เก้าอี้ โคมไฟ ล้วนทำมาจากไม้ไผ่ทั้งสิ้น โดยบ้านพักแต่ละหลังจะถูกสร้างให้ลดหลั่นกันมาตามแนวเขา การสร้างบ้านพักแบบนี้ข้อดีสุดเจ๋งของเค้าก็คือ ทุกหลังจะวิวดีแบบสุดๆ ใกล้เคียงกัน
ตัวห้องพักของที่นี่มีด้วยกัน 4 แบบ ทุกแบบเน้นใช้ไม้ไผ่เป็นหลัก ได้แก่ แบบ Private Pool Cottage ห้องพักขนาดใหญ่ที่มาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว มีลานระเบียงกลางแจ้งให้ได้นั่งเล่นนอนเล่นพักผ่อน รวมไปถึงมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งด้วยนะ , ห้อง Upper Mountain Cottage ห้องนี้จะเป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างกว้างขวาง มีระเบียงกว้างยกหลังคาสูงช่วยให้ดูโปร่งโล่งสบาย แถมยังช่วยให้สามารถมองเห็นวิวทั้งกลางวันและกลางคืนได้อย่างชัดเจน , ห้องแบบ Mountain Cottage ห้องพักที่สร้างจากไม้ไผ่ ที่มีระเบียงกว้างสามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ และสุดท้ายห้องพักแบบ Bamboo Cottage ห้องพักที่เน้นไม้ไผ่เป็นองค์ประกอบทั้งผนังห้อง เฟอร์นิเจอร์กลมกลืนไปด้วยไม้ไผ่ทั้งสิ้น
ครั้งนี้ บ.ก.พาชิมพาชม มีโอกาสเข้าพักในห้องพักแบบ Mountain Cottage ความเจ๋งของห้องนี้คือ ห้องกว้างขวางมาก ขนาดจะอยู่ราวๆ 30-45 ตร.เมตร โซนห้องนอนตกแต่งด้วยไม้ไผ่ จามจุรี และ ไม้สัก ดูเรียบง่ายแต่กว้างขวาง มีระเบียงส่วนตัวให้ได้นั่งเล่นพักผ่อน และสัมผัสวิวสวยที่บอกเลยว่า "วิวสุดว้าว" มั่กๆๆๆ ช่วงกลางคืนสามารถมานั่งเล่นนอนเล่นนับดาวได้แบบกระจ่างตาสุดๆ ส่วนในช่วงเช้า จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของทะเลหมอกที่ปกคลุมขุนเขากว้างสุดลูกหูลูกตากันเลยทีเดียว สิ่งอำนวยความสะดวกบอกเลยว่าครบครัน แต่ต้องยกเว้น "ทีวี" ไว้ 1 อย่าง เพราะที่นี่เค้าอยากให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติสวยแบบเต็มที่ และอยากให้ได้พักผ่อนอย่างจริงจัง เลยไม่มี "ทีวี" ในทุกห้องพักจ้า แต่เอาเข้าจริง แค่ได้มานั่งชิลล์ชมธรรมชาติริมระเบียง หรือเดินสัมผัสวิวสวยๆรอบรีสอร์ท บ.ก.พาชิมพาชม ก็ว่า เพลินจนลืมละครเรื่องโปรดทางทีวีไปเลย
จากห้องพักเราออกมาเดินเล่นสูดอากาศไปยังบริเวณรอบๆ กันบ้าง ด้วยพิกัดที่ตั้งอยู่บริเวณเนินเขา มีป่าไม้รายล้อมทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว แทรกแซมด้วยสีสันของไม้ดอกไม้ประดับทั้งแบบธรรมชาติและที่ทางรีสอร์ทได้ปลูกเพิ่มเติมขึ้นมา ในช่วงหน้าหนาวที่พรรณไม้เมืองหนาวเบ่งบานแบบเต็มที่ บริเวณรอบๆรีสอร์ทจะเต็มไปด้วยสีสันมากมาย เรียกได้ว่าถ้ามีกล้องติดมาก็รัวชัตเตอร์กันแบบไม่ต้องยั้งเลยทีเดียว
เดินเล่นจนเหนื่อยขอเวลามาเติมพลังให้ท้องอิ่มกันบ้างนะคะ ที่ห้องอาหารของที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบ Indoor เรียบหรู และ แบบ Outdoor ท่ามกลางธรรมชาติ โดยวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารทั้งหลายบอกเลยว่า ทางรีสอร์ทเค้ามีฟาร์มของตัวเองในการปลูกผักและผลไม้ ส่วนที่เหลือที่ผลิตเองไม่ได้ก็สนับสนุนผู้เพาะปลูกในท้องถิ่น ให้จัดหาเนื้อสัตว์ ผัก และผลไม้ที่สามารถปลูกเองได้ตามฤดูกาล มาใช้ในรีสอร์ท เรียกได้ว่าดูแลและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชาวบ้านได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
"สลัดภูใจใส" สลัดผักเพื่อสุขภาพที่เน้นความสดใหม่ไร้สารพิษของผักสลัด ที่ทางรีสอร์ทปลูกเอง ให้รสชาติ กรอบ หวาน ทานกับน้ำสลัดสูตรพิเศษของรีสอร์ท ให้รสเปรี้ยวหวานนำ จานนี้นอกจากจะอร่อยไปกับความสดใหม่ของผักแล้ว รสชาติยังอร่อยทานง่ายอีกด้วย
เมนูไฮไลท์มาแล้วห้ามพลาดต้องยกให้เซ็ทนี้ "น้ำพริกอาข่า" ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่นำเอาน้ำพริกของชนเผ่าอาข่า ที่อาศัยอยู่บนดอยแม่สลองแห่งนี้มาเป็นระยะเวลานานมาเป็นตัวชูโรง ตัวน้ำพริกรสชาติคล้ายน้ำพริกหนุ่ม แต่ใช้มะเขือเทศเป็นวัตถุดิบหลักมากกว่า ให้รสออกเปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อม และหอมกลิ่นมะเขือเทศมากๆ เมนูนี้ทานคู่ข้าวสวยร้อนๆ แนมด้วยผัก และ เกี๊ยวกรอบ เข้ากันได้ดีแบบลงตัวสุดๆ
อีกจานอาหารอร่อย ที่ไม่ลืมเรื่องสุขภาพต้องนี่ "ลาบหมูคั่ว" ลาบพื้นเมืองทางเหนือ มีการใส่หมูสับและเครื่องในหมูพร้อมปรุงรสแบบพื้นบ้าน ให้รสชาติเข้มข้นเลยทีเดียว จานนี้ทานคู่ผักแนมหลากหลาย ที่แน่นอนว่ามาจากฟาร์มของรีสอร์ทที่เน้นความสดใหม่ และไร้สารเคมี อร่อยและได้สุขภาพมากๆ
มาสายสุขภาพแล้วบอกเลยต้องเอาให้สุด อาหารจานหลักเป็นเมนูสุขภาพแล้ว เครื่องดื่มก็ต้องเน้นสุขภาพด้วยเช่นกัน ครั้งนี้ลองเมนูน้ำสับปะรดและน้ำอัญชัน หอมชื่นใจ และเข้ากับทุกเมนูก่อนหน้าสุดๆค่ะ
อิ่มแล้วไปเดินเล่นกันต่อค่ะ เห็นเป็นรีสอร์ทท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เค้าก็มีสระว่ายน้ำสวยได้มาตรฐานไว้ให้บริการด้วยนะ โดยสระว่ายน้ำจะมีทางเดินแยกออกมาเป็นสัดส่วน ตั้งอยู่บนเนินเขา เห็นวิวสวยสุดลูกหูลูกตา ว่ายน้ำไปพลางสัมผัสวิวสวยด้วย 2 ตาไปพลาง บอกเลย สงบ และ สดชื่น เหมือนได้พักผ่อนทั้งกายและใจไปพร้อมๆกัน
มาพักผ่อนทั้งทีอีก 1 ไฮไลท์ห้ามพลาดแนะนำ Bamboo Spa บริการสปาทรีทเมนท์ด้วยสมุนไพรธรรมชาติและน้ำมันหอมระเหยสูตรเฉพาะโดยพนักงานที่ได้รับการฝึกฝนและชำนาญการเป็นพิเศษ ช่วยให้ผ่อนคลาย ทั้งยังรู้สึกเรียบเนียนและกระปรี้กระเปร่าขึ้น
ใครที่มาพักผ่อนแต่ยังไม่ทิ้งกิจกรรม ที่นี่เค้ามีกิจกรรมการท่องเที่ยวให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเรียนทำอาหาร , การขี่ม้า , การเยี่ยมชมตลาดอาข่า , การเยี่ยมชมไร่ชา ไปจนถึงท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ทางรีสอร์ทเค้าก็มีคอร์สหรือสามารถแนะนำกิจกรรมต่างๆให้ได้ เรียกว่ามาที่นี่ที่เดียว ได้ครบ ทั้ง กิน เที่ยว พัก ชิลล์ หายเหนื่อยจากการงานและพร้อมกลับไปรับมือกับการงานอย่าง Full Power แน่นอน!!!
ภูใจใส เมาน์เทน รีสอร์ต
ที่ตั้ง : 142 ม.8 ต.บ้านแม่สลองนอก อ.แม่จัน จ.เชียงราย 57110
เว็บไซต์ : https://www.phu-chaisai.com/th/
Facebook : https://www.facebook.com/Phuchaisai/